วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สรุปหลักการใช้ตามหลักภาษาอังกฤษ



สรุปการใช้ Tenses 1
          Tenses l
1.      Present simple
2.      Present Continuous
3.      Present Perfect
4.      Present Perfect Continuous
1.      Present simple
Form  : Subject + Verb 1 (s, es, -) + complement
Usage : โปรดดูตัวอย่างประกอบก่อน
1.      Cows give milk and sheep give wool.
วัวให้นม  แกะให้ขน
2.       My son goes to Surawitthaya School.
บุตรชายของผมไปเรียนที่โรงเรียนสุรวิทยา
3.      We often go to the Raja Theatre.
ปกติเราชอบไปดูภาพยนตร์ที่โรงภาพยนตร์ราชา
                        จากตัวอย่างพอสรุปวิธีการใช้ได้ดังนี้
ก.      จากตัวอย่างที่ 1 เราจะเห็นว่าเป็น natural truths หรือข้อความจริงตาม
ธรรมชาติ และนี่คือกฎการใช้ประการแรก
ข.      จากตัวอย่างที่ 2 พูดถึง routine หรือกิจวัตรที่ my son ไปโรงเรียนเป็นประจำ
ถือว่าเป็นการกระทำที่ถาวร (permanence) นี่คือกฎการใช้ประการที่ 2
ค.      จากตัวอย่างที่ 3 เราจะเป็นว่าเป็น repetition of action หรือการกระทำซ้ำไป
ซ้ำมา ซึ่งเป็นกฎการใช้ประการที่ 3
2.      Present Continuous
Form  : Subject + is/am/are + V ing + Complement
Usage : โปรดดูตัวอย่างประกอบก่อน
1.      The sun is shining so it is a lovely day for a picnic.
ดวงอาทิตย์กำลังทอแสง ดังนั้นวันนี้จึงเป็นวันที่เหมาะแก่การพักผ่อนตากอากาศ
2.      Sunee is coming here next week.
สุนีย์จะมาที่นี่สัปดาห์หน้า
3.      She enters the room while I am reading a newspaper.
เธอเข้าในห้องในขณะที่ฉันกำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่
สรุปการใช้ Tenses 2
4.      Winai is working at the Physic Center Publishing Company.
วินัยทำงานที่บริษัทสำนักพิมพ์ฟิสิกส์เซ็นเตอร์
                   จากตัวอย่างพอสรุปวิธีการได้ดังนี้
ก.      จากตัวอย่างที่ 1 แสดงว่าเป็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนั้นซึ่งเป็นกฎ
การใช้ประการแรก
ข.      จากตัวอย่างที่ 2 เป็นการแสดงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ จะ
เห็นว่ามี time signal บ่งอบอยู่คือ next week ซึ่งเป็นกฎการใช้ประการที่สอง
ค.      จากตัวอย่างที่ 3 จะเห็นว่ามีเหตุการณ์ 2 อย่างเกิดขึ้น เหตุการณ์ที่กำลัง
ดำเนินอยู่ ใช้รูป continuous from ซึ่งเป็นกฎการใช้ประการที่สาม
ง.       จากตัวอย่างที่ 4 เป็นการแสดงถึงการกระทำชั่วคราวไม่ถาวร
(temporary action) ซึ่งเป็นกฎการใช้ประการที่สี่
หมายเหตุ         กริยาต่อไปนี้ไม่ใช้ในรูป continuous from ได้แก่ be, think, know, recognize,
understand, believe, desire, wish, love, realize, forget, fell, see, hear, taste, smell,
matter, consist, pisses, own, fit, belong, contain, seem, suppose, owe, suit, concern, appear, look และ call  
3.      present Perfect
form  : Subject + have/has + V3 + Complement
Usage : โปรดดูตัวอย่างประกอบก่อน
1.      Peter has worked as an engineer for five years.
ปีเตอร์ทำงานหน้าที่วิศวกรมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว
2.      I have not seen Peter Since last Friday
ผมไม่ได้พบปีเตอร์ตั้งแต่ศุกร์ที่ผ่านมา
3.      I have already made up my mind what to do.
ผมได้ตัดสินใจแล้วว่าจะทำอะไร
                   จากตัวอย่างพอสรุปวิธีการใช้ได้ดังนี้
ก.      จากตัวอย่างที่ 1-2 แสดงถึงการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตและยังดำเนินต่อเนื่อง
มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งดำเนินต่อไปในอนาคตโดยปกติมีคำว่า for, since
ข.      จากตัวอย่างที่ 3 จะมีคำวิเศษบ่งบอกอยู่ คือ already นอกจากนี้ก็มีคำว่า
frequently, recently, never, ever, just

สรุปการใช้ Tenses 3
4.      Present Perfect Continuous
Form : Subject + have/has been + V ing + Complement
Usage : โปรดดูตัวอย่างประกอบก่อน
1.      Peter has been living in Germany since 1952.
ปีเตอร์อาศัยอยู่ประเทศเยอรมันนีมาตลอดตั้งแต่ปี 1952.
2.      I have been waiting for an hour exactly.
ผมรอมาเป็นเวลา 1 ชั่วโมงแล้ว
สรุปการใช้
            จากตัวอย่างที่ 1-2 จะเห็นได้ว่า ได้มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่อดีตเรื่อยมา
จนถึงปัจจุบัน และยังแสดง 
repetition ของเหตุการณ์นั้นด้วย

สรุปการใช้ Tenses 5
          Tenses ll
1.      Past Simple
2.      Past Continuous
3.      Past Perfect
4.      Past Perfect Continuous
1.      Past Simple
Form : Subject + V2 + Complement
Usage : โปรดดูตัวอย่างประกอบด้วย
1.      The train reached the station at three yesterday.
รถไฟมาถึงสถานีตอนบ่าย 3 โมง เมื่อวานนี้
2.      He never sucked his thumb unlike many children.
เขาไม่เคยดูดนิ้วมือซึ่งไม่เหมือนกับเด็ก ๆ ทั่วไป
                   จากตัวอย่างพอสรุปวิธีการใช้ได้ดังนี้
ก.      จากตัวอย่างแรก เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและเสร็จสิ้นสมบูรณ์ไปใน
อดีต โดยปกติมีคำบอกเวลา เช่น yesterday, ago, last week,………….
ข.      ตัวอย่างที่ 2 แสดงนิสัยบางอย่างในอดีต มักมีคำวิเศษบอก เช่น never,
always,………………..
2.      Past Continuous
Form : Subject + was/were + V ing + Complement
Usage : โปรดดูตัวอย่างประกอบก่อน
1.      They were eating lunch at 12.
พวกเขากำลังกินอาหารเที่ยงตอน 12 นาฬิกา
2.      While he was walking, we were watching television.
ขณะที่เขากำลังทำงาน เราก็กำลังดูทีวี
3.      While we were reading, we heard a strange sound at the door.
ขณะที่เรากำลังอ่านหนังสืออยู่ เราก็ได้ยินเสียงประหลาด ๆ ที่ประตู
                   จากตัวอย่างพอที่จะสรุปวิธีการใช้ได้ดังนี้
ก.      จากตัวอย่างที่ 1 แสดงถึงการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต
ข.      จากตัวอย่างที่ 2 แสดงถึงเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีตพร้อม
ค.      จากตัวอย่างที่ 3 แสดงถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต
และเหตุการณ์ที่เกิดในอดีตและจบลงในอดีต
สรุปการใช้ Tenses 6
3.      Past Perfect
Form : Subject + had + V3 + Complement
Usage : ใช้แสดงการกระทำสองอย่างที่เกิดขึ้นในอดีตเหมือนกัน เหตุการณ์ที่เกิดก่อนใช้ Past Perfect Tenses ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังใช้ Past Simple Tense ตัวอย่าง
We had finished our work so we went home.
เมื่อเราทำงานเสร็จ เราก็กลับบ้าน
I had broken my leg the previous day so I couldn’t go to school.
เมื่อวันก่อนผมขาหัก จึงไม่สามารถไปโรงเรียนได้
Peter had not arrived by two o’clock so I did not wait.
ปีเตอร์ไม่ได้มาตอนบ่าย 2 โมง ดังนั้นผมจึงไม่รออีก
4.      Past Perfect Continuous
Form : Subject + had been + V ing + Complement
Usage : เราใช้ tense นี้เมื่อเราต้องการจะแสดงให้เห็นว่าการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตนั้น
เกิดอย่างต่อเนื่อง (
Continuously) หรือเกิดขึ้นช้ำแล้วช้ำอีก (repeatedly)
ตัวอย่าง
We had been studying for months. (so we felt confident on examination day )
เราได้เรียนมาเป็นเวลาหลายเดือน
John has not been sleeping well. (so he ask the doctor for some sleeping pill)
จอร์นนอนไม่หลับมาตลอด
The rain had been falling steadily all day. (when suddenly the sun broke though)
ฝนตกมาตลอดวัน

สรุปการใช้ Tenses 8
                   Tenses lll
1.      Future Simple
2.      Future Continuous
3.      Future Perfect
4.      Future Perfect Continuous
1.      Future Simple
Form  : Subject + will/shall + V1 + Complement
Usage : โปรดดูตัวอย่างประกอบด้วย
1.      I shall be twenty-two on my next birthday.
ผมจะมีอายุครบ 22 ในวันเกิดถัดไป
2.      They will meet Mary and Peter at the dance if they go.
พวกเขาจะพบแมรี่และปีเตอร์ที่งานเต้นรำถ้าหากพวกเขาไป
3.      Peter say he is going to be a doctor when he grows up.
ปีเตอร์บอกเขาจะเป็นหมอเมื่อเขาโตขึ้น
4.      The wind has changed and the clouds are black. I’m afraid it’s going to rain.
ลมใต้เปลี่ยนทิศทางและมีเมฆตั้งเค้ามาทะมึน ฝนกำลังจะตกแล้ว
                   จากตัวอย่างพอสรุปวิธีการใช้ดังนี้
ก.      จากตัวอย่างที่ 1 แสดงถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยปกติ time 1
บอกอนาคต เช่น “on my next birthday”
ข.      จากตัวอย่างที่ 2 แสดงถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่นกัน โดยไม่
จำเป็นจะต้องมี time  บอก
ค.      จากประโยคที่ 3 แสดงถึงความตั้งใจ (intention) ของ Peter ที่จะกระทำ (be
going to) ความตั้งใจนั่นคือ จะเป็นหมอ
ง.       จากประโยคที่ 4 แสดงถึงเหตุการณ์ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นแน่นอน (certainty
of the action) คือ ฝนจะตก

สรุปการใช้ Tenses 9
2.      Future Continuous
Form  : Subject + will be/shall be + V ing + Complement
Usage : โปรดดูตัวอย่างประกอบก่อน
1.      At eleven o’clock tomorrow I shall be traveling to Tokyo.
พรุ่งนี้เวลา 11.00 น. ผมจะเดินทางไปโตเกียว
2.      At this time on Friday Peter will be having lunch with Mary.
วันศุกร์เวลาเดียวกันนี้ปีเตอร์จะรับประทานอาหารเที่ยงกับแมรี่
                   จากตัวอย่างพอสรุปวิธีการใช้ได้ดังนี้
                        ก. จากตัวอย่างประโยคที่ 1-2 เราใช้ Future Continuous เพราะเป็นการกระทำที่จะ
เกิดขึ้นในอนาคตตามเวลาที่บ่งบอกไว้แน่นอน (
a particular point of time) เ
ช่น 
at eleven o’clock tomorrow, at this time on Friday,………………เป็นต้น
3.      Future Perfect
Form  : Subject + will /shall have + V 3 + Complement
Usage : โปรดดูตัวอย่างประกอบก่อน
1.      I shall have finished my work by nine o’clock.
ผมจะทำงานให้เสร็จไม่เกิน 9 นาฬิกา
2.      The boys will have eaten all the cake by the time we get home.
เด็ก ๆ จะกินขนมเค้กหมดไม่เกินจากเวลาที่เรากลับบ้าน
3.      The telegram will have reached New York before your plane lands.
โทรเลขจะถึงนิวยอร์กก่อนที่เครื่องบินของคุณจะร่อยลง
                    จากตัวอย่างพอสรุปวิธีการใช้ได้ดังนี้
ก.      จากตัวอย่างที่ 1-2 เราจะใช้ Future Perfect กรณีที่มีคำว่า by (แปลว่า no
later than) + time
ข.      จากตัวอย่างที่ 3 จะเห็นว่ามีเหตุการณ์ 2 อย่าง เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น
ภายหลังใช้ Present Simple Form เช่น “lands” ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนใช้ Future Perfect เช่น “will have reached”

สรุปการใช้ Tenses 10
4.      Future Perfect Continuous
Form  : Subject + will have been/shall have been + V ing + Complement
Usage : โปรดดูตัวอย่างประกอบก่อน
1.      By June of Next year I shall have been teaching for 10 years.
ภายในเดือนมิถุนายนปีหน้าผมจะสอนครบ 10 ปี
2.      By lunch time I shall have been walking for four hours.
ในช่วงรับประทานอาหารกลางวัน ผมจะเดินไปได้แล้ว 4 ชั่วโมง
                   จากตัวอย่างพอสรุปวิธีการใช้ได้ดังนี้
ก.      จากตัวอย่าง 1-2 วลีขีดเส้นใต้ไว้ชี้แสดงว่า ช่วงเวลาในอนาคตที่ทำให้
ช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สมบูรณ์ เช่น 10 ปี, 4 ชั่วโมง ซึ่งจะผ่านไปเนื่องจากมีการเริ่มต้นของอีก
เหตุการณ์หนึ่ง แสดงว่าเหตุการณ์นี้จะดำเนินต่อไปอีกหลังจากช่วงเวลาหนึ่งในอนาคต